Dictly คืออะไร รีวิวแอปแปลงเสียงเป็นข้อความออฟไลน์บน macOS และ iOS ด้วย AI ปลอดภัย ใช้งานง่าย

Dictly – แอปแปลงเสียงเป็นข้อความที่ปลอดภัยและแม่นยำ สำหรับผู้ใช้ macOS และ iOS

คุณเคยรู้สึกไหมว่าเวลาคุณต้องพิมพ์ข้อความยาวๆ บนคอมพิวเตอร์หรือมือถือ มันใช้เวลานานและน่าเบื่อ Dictly คือคำตอบของปัญหานี้ แอปนี้ช่วยให้คุณ “พูด” แล้วได้ “ข้อความ” ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์เอง ที่สำคัญคือ ทำงานได้โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต และ ไม่เก็บข้อมูลของคุณเลย

Dictly ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ความรวดเร็ว และความสะดวกในการทำงาน

Dictly คืออะไร

Dictly เป็นแอปแปลงเสียงเป็นข้อความ (dictation tool) ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ macOS, iOS และ iPadOS จุดเด่นของ Dictly คือการทำงาน “ภายในเครื่อง” ทั้งหมดโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

คุณสมบัติหลักของ Dictly:

• แปลงเสียงเป็นข้อความได้แบบเรียลไทม์

• ทำงานได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

• ไม่เก็บข้อมูลหรือส่งข้อมูลไปที่เซิร์ฟเวอร์

• รองรับการสั่งงานด้วยเสียงแบบธรรมชาติ

• ปรับแต่งโทนและโครงสร้างข้อความได้ตามแอปที่ใช้งาน

ทำไม Dictly ถึงสำคัญในยุคนี้

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต้องพิมพ์ข้อความตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึก ส่งอีเมล หรือเขียนโค้ด แต่การพิมพ์ช้าและเสียเวลา Dictly เข้ามาช่วยให้คุณพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ แล้วระบบจะแปลงเป็นข้อความที่พร้อมใช้งานทันที

ประโยชน์ของ Dictly:

• ประหยัดเวลา: พูดแทนการพิมพ์ได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่า

• ปลอดภัย: ข้อมูลทั้งหมดถูกประมวลผลในอุปกรณ์ของคุณ

• ใช้งานได้ทุกที่: แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น บนเครื่องบินหรือในโรงพยาบาล

• เหมาะกับมืออาชีพ: นักเขียน, โปรแกรมเมอร์, นักศึกษา, และคนทำงานเอกสาร

จุดเด่นและฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Dictly

1. ทำงานแบบออฟไลน์เต็มรูปแบบ
   Dictly สามารถแปลงเสียงเป็นข้อความโดยไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง

2. Quick Capture
   ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณพูดแล้ว Dictly จะแทรกข้อความลงในช่องที่คุณเปิดอยู่โดยอัตโนมัติ

3. Workflows และ Profiles ที่ปรับแต่งได้
   Dictly ให้คุณกำหนดรูปแบบข้อความตามแต่ละแอป เช่น การเขียนอีเมลหรือโค้ด

4. Type-out, Paste, Copy Modes
   สามารถส่งข้อความไปยังช่องกรอกหรือคัดลอกได้ทันที

5. รองรับทั้ง macOS และ iOS/iPadOS
   ทั้งสองเวอร์ชันทำงานร่วมกันได้ดี และยังมี Shared Workflows ที่ใช้ร่วมกันระหว่างอุปกรณ์

ความแตกต่างระหว่าง Dictly Core และ Dictly Pro

• Dictly Core (ฟรี): รองรับฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น แปลงเสียงเป็นข้อความและ Quick Capture

• Dictly Pro (จ่ายเงิน): เพิ่มความสามารถไม่จำกัด เช่น workflows, profiles, และ export options

เหมาะกับใคร:

• ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการแอปฟรีใช้งานง่าย → ใช้ Dictly Core

• มืออาชีพที่ต้องการระบบจัดการและปรับแต่งขั้นสูง → ใช้ Dictly Pro

ความเป็นส่วนตัวคือหัวใจของ Dictly

Dictly ไม่เก็บ ไม่ส่ง และไม่แชร์ข้อมูลเสียงของคุณกับใคร ข้อมูลทุกอย่างถูกเก็บไว้ในเครื่องด้วยระบบ Local SwiftData Storage และในอนาคตจะรองรับการซิงก์แบบ Private CloudKit Sync ที่ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ 100%

สรุปคือ:
“ข้อมูลของคุณจะไม่ออกจากอุปกรณ์ Apple ของคุณเลย”

วิธีใช้งาน Dictly ในชีวิตประจำวัน

• สำหรับนักเรียน: ใช้พูดบันทึกสรุปหรือเขียนรายงานแทนการพิมพ์

• สำหรับนักเขียน: ใช้ร่างบทความหรือไอเดียด้วยเสียง

• สำหรับนักพัฒนา: ใช้คอมเมนต์โค้ดหรือเขียนโน้ตระหว่างทำงาน

• สำหรับพนักงานออฟฟิศ: ใช้จดบันทึกการประชุมหรือสั่งงานได้ทันที

FAQs

1. Dictly ใช้งานได้บนอุปกรณ์ใดบ้าง?
Dictly รองรับ macOS, iOS และ iPadOS โดยมีฟีเจอร์เฉพาะตามแต่ละระบบ

2. จำเป็นต้องต่ออินเทอร์เน็ตไหม?
ไม่จำเป็น Dictly ทำงานได้แบบออฟไลน์ 100%

3. Dictly เก็บข้อมูลเสียงของฉันไหม?
ไม่เก็บข้อมูลใดๆ ทุกอย่างถูกประมวลผลและจัดเก็บในเครื่องคุณเท่านั้น

4. Dictly Pro ต่างจาก Dictly Core อย่างไร?
Dictly Pro รองรับ workflow ไม่จำกัด และมีระบบปรับแต่งระดับสูงสำหรับมืออาชีพ

5. Dictly เหมาะกับงานประเภทใดบ้าง?
เหมาะกับงานเขียน เอกสาร อีเมล การสอน หรือการพัฒนาโปรแกรม

6. สามารถใช้งาน Dictly ได้ที่ไหน?
คุณสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ที่เว็บไซต์ทางการ https://dictly.app/

สรุป

Dictly คือเครื่องมือแปลงเสียงเป็นข้อความที่ให้คุณควบคุมข้อมูลของตัวเองอย่างเต็มที่ ปลอดภัย ทำงานเร็ว และเหมาะกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือบนเครื่องบิน

หากคุณต้องการลดเวลาการพิมพ์และเพิ่มความสะดวกในการทำงาน Dictly คือคำตอบของคุณ

เริ่มใช้งาน Dictly ได้เลยที่: https://dictly.app/